
กีฬาเป็นยาวิเศษ
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ
หากพูดคำว่า กีฬา คงไม่มีใครแย้งถึงประโยชน์มากมายที่กีฬามีต่อสุขภาพของเรานะคะ ไม่เฉพาะสุขภาพกาย..แต่กีฬาสามารถช่วยเยียวยาสุขภาพใจของเราได้อีกด้วย และการวิ่งก็เป็นกีฬาอีกประเภทที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นที่น่าดีใจว่า มีงานวิ่งที่ไหน..Hi ของเราก็มักจะได้รับความไว้วางใจให้ไปจัดซุ้มลูกโป่งทุกครั้ง วันนี้เราลองมาดูคุณสมบัติแสนวิเศษของกีฬาวิ่งกันนะคะ
ก่อนอื่นร้านลูกโป่งของเรา ขออัญเชิญ พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พระราชทานแก่คณะกรรมการราชกรีฑาสโมสร ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 30 สิงหาคม 2514 ที่ว่า
"...การวิ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะว่าสนับสนุนให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย และการออกกำลังกายวิ่งนี้ก็เป็นวิธีอย่างหนึ่งซึ่งไม่สิ้นเปลือง ไม่ต้องมีเครื่องไม้เครื่องมืออะไร จึงเป็นการออกกำลังที่ถูกหลักวิชาและถูกต้องที่สุดที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ กีฬาวิ่งแบบออกกำลังกายนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สมาชิกทั้งหลายมีอนามัยสมบูรณ์..."
นับเป็นกำลังใจและเป็นสิริมงคลแก่นักวิ่งอย่างสูงสุด ที่องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงส่งเสริมและแนะนำกีฬาวิ่ง ว่าเหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย ใช้ต้นทุนน้อย อุปกรณ์มีไม่มาก ที่สำคัญคือทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กีฬาวิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตีคู่มากับการปั่นจักรยานเลยทีเดียว
การวิ่งถือเป็นการแข่งขันด้วย ซึ่งส่วนมากก็วัดกันที่ระยะทางกับเวลาที่ใช้ในการวิ่ง แต่อีเว้นท์ที่ Hi ของเราไปเตรียมลูกโป่งจัดงานให้ มักเป็นงานวิ่งมาราธอนค่ะ
วิ่งมาราธอนเป็นกีฬาที่แปลก คือเน้นการแข่งขันกับตัวเอง จากนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งเป็นร้อยเป็นพัน เอาเข้าจริงคนที่ได้ถ้วยหรือเหรียญรางวัลก็มีแค่ไม่เกิน 5 คน แล้วผู้เข้าแข่งขันที่เหลือล่ะ...จะเข้าเส้นชัยที่เท่าไหร่คงไม่มีใครจำได้ หรือจะออกจากการแข่งขันกลางทางก็ทำได้ แต่..นักวิ่งเหล่านั้น เขายังคงวิ่งไปยังเส้นชัย....เพื่ออะไร
คำตอบคือ..ก็เพื่อพิสูจน์อย่างไรเล่าคะ พิสูจน์ว่า..เราสามารถเอาชนะตัวเองได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อความเหนื่อย ความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ อากาศที่ร้อน ผิวหนังที่เหนียวเหนอะหนะ และความละอายในใจของตัวเอง เพราะอย่างที่บอกไป...จะวิ่งถึงหรือไม่ถึงเส้นชัยก็ไม่มีใครรู้หรอก แต่จิตใต้สำนึกเรารู้ และถ้าเราทำไม่ได้..เหตุการณ์นี้ก็จะบั่นทอนกำลังใจของเราต่อไปในอนาคต
ดังนั้นจะเห็นว่า การวิ่งมาราธอนนั้น แท้จริงแล้วเป็นการฝึกความเข้มแข็งของจิตใจ (และร่างกายด้วย) ว่าเราจะไม่ออมมือให้กับพลังลบ ๆ ที่ผุดขึ้นในใจของเราเด็ดขาด บางคนฝึกซ้อมมาเป็นปี เพื่อการแข่งขันเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่เมื่อเขาทำได้..ความภูมิใจนั้นเอง..คือรางวัลอันทรงค่าที่สุด
เราชาว Hi ก็ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับนักวิ่งและนักกีฬาทุกท่าน และหากท่านใดอยากส่งกำลังใจให้นักกีฬาที่ชนะตัวเองได้สำเร็จ ก็อย่าลืมพิจารณา “ลูกโป่ง” เป็นของขวัญนะคะ